เข้าร่วมโปรโมชัน FBS

รับรางวัล 100% ตั้งแต่อุปกรณ์แก็ดเจ็ตไปจนถึงรถยนต์ และชนะการจับรางวัลด้วยเงินรางวัลรวม 150,000 ดอลลารเรียนรู้เพิ่มเติม
เปิดบัญชี
เปิดบัญชีล็อกอิน
เปิดบัญชี

Leverage

เลเวอเรจทางการเงินคืออะไร?

เลเวอเรจทางการเงินคือการใช้เงินทุนที่ยืมมาเพื่อทำการลงทุน ส่งผลให้เลเวอเรจทางการเงินมีศักยภาพในการเพิ่มผลตอบแทนหรือผลกำไรจากโครงการ ในขณะเดียวกัน การใช้เลเวอเรจทางการเงินยังเพิ่มความเสี่ยงที่ผู้ใช้ต้องแบกรับไว้ หากการลงทุนไม่ประสบความสำเร็จด้วย

ในบทความนี้ คุณจะได้เรียนรู้ว่าการเทรดด้วยเลเวอเรจคืออะไร มันทำงานอย่างไร มีการเทรดด้วยเลเวอเรจประเภทใดบ้าง วิธีการใช้เลเวอเรจในการเทรด ข้อดีและข้อเสียของเลเวอเรจมีอะไรบ้าง และวิธีลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น

การเทรดด้วยเลเวอเรจคืออะไร?

เลเวอเรจเป็นกลยุทธ์การซื้อขายที่เป็นที่แพร่หลายมากซึ่งเกี่ยวข้องกับเทรดเดอร์ที่ยืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อเปิดตำแหน่งที่ใหญ่กว่าที่พวกเขาสามารถจ่ายได้ด้วยเงินของตัวเอง การซื้อขายโดยใช้เลเวอเรจเป็นที่นิยมโดยเฉพาะใน Forex เนื่องจากคุณสามารถรับเลเวอเรจสำหรับการซื้อขาย Forex ได้สูงกว่าสินทรัพย์อื่นๆ มาก

การเทรดด้วยเลเวอเรจทำงานอย่างไร?

ในการที่จะเข้าใจว่าการเทรดด้วยเลเวอเรจทำงานอย่างไร คุณต้องเข้าใจก่อนว่าเลเวอเรจคืออะไร เลเวอเรจคืออัตราส่วนระหว่างจำนวนเงินที่คุณฝากเข้าบัญชีซื้อขายของคุณกับจำนวนเงินที่คุณสามารถซื้อขายได้ จำนวนเงินที่คุณฝากเป็นเพียงส่วนเล็กๆ ของเงินทุนที่คุณสามารถใช้ในการซื้อขายได้ ส่วนที่เหลือโบรกเกอร์ของคุณจะจัดหาให้ อัตราส่วนนี้มักจะแสดงเป็น X:1 โดยที่ X คือจำนวนเงินที่คุณสามารถเข้าถึงได้หลังจากฝากเงินส่วนตัวของคุณแล้ว ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณใช้เลเวอเรจ 100:1 และฝากเงิน $100 คุณสามารถซื้อขายสินทรัพย์มูลค่า $10,000 ได้

การเทรดด้วยมาร์จิ้น

การเทรดด้วยมาร์จิ้นเป็นหนึ่งในตัวอย่างที่พบบ่อยที่สุดของการเทรดด้วยเลเวอเรจ มาร์จิ้นคือจำนวนเงินที่คุณต้องใช้ในการเปิดการซื้อขาย การเทรดด้วยมาร์จิ้นทำให้คุณสามารถซื้อขายสินทรัพย์ได้มากกว่าที่คุณสามารถจ่ายได้ด้วยเงินสดเพียงอย่างเดียว

โปรดทราบว่าเมื่อพูดถึง Forex การเทรดด้วยมาร์จิ้นนั้นกำหนดให้คุณต้องชำระเงินเบื้องต้นให้กับโบรกเกอร์เพื่อรับเลเวอเรจในการซื้อสินทรัพย์ ในการเทรดด้วยมาร์จิ้น คุณต้องเปิดบัญชีมาร์จิ้นที่คุณฝากเงินไว้ และเงินจำนวนนี้ถูกใช้เป็นหลักประกัน การเทรดด้วยมาร์จิ้นจะเพิ่มทั้งกำไรที่อาจเกิดขึ้นและการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น และยังให้สิทธิ์โบรกเกอร์ของคุณในการปิดตำแหน่งของคุณโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากคุณ หากคุณมีเงินไม่เพียงพอในบัญชีมาร์จิ้นของคุณ

การเทรดอนุพันธ์

เลเวอเรจยังสามารถนำไปใช้กับการเทรดอนุพันธ์ได้ด้วย อนุพันธ์เป็นเครื่องมือทางการเงินที่มีมูลค่ามาจากสินทรัพย์อ้างอิง อนุพันธ์ช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับสิทธิ์ในการซื้อหรือขายสินทรัพย์ในราคาเฉพาะ และทำให้การซื้อขายมีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น

ETFs ที่มีเลเวอเรจ

กองทุนซื้อขายแลกเปลี่ยนที่มีเลเวอเรจหรือ ETF เป็นเครื่องมือการซื้อขายที่ช่วยเพิ่มผลกำไรจากการลงทุนได้อย่างมากผ่านการใช้อนุพันธ์และตราสารหนี้ร่วมกัน แต่เทรดเดอร์ควรระมัดระวังในขณะที่ซื้อขาย EFTs เนื่องจากมีความเสี่ยงค่อนข้างมาก ETFs ติดตามตะกร้าหุ้นในภาคส่วนหนึ่งและช่วยกระจายพอร์ตของผู้ถือหุ้น ราคาของ ETF แบบดั้งเดิมจะเคลื่อนไหวไปพร้อมกับราคาหุ้นที่ติดตามแบบตัวต่อตัว อย่างไรก็ตาม ETF ที่มีเลเวอเรจมุ่งเป้าไปที่อัตราส่วน 2:1 หรือ 3:1 และอาจนำมาซึ่งผลกำไรที่มากขึ้น

อัตราส่วนเลเวอเรจในตลาดการเงิน

คุณสามารถใช้เลเวอเรจเพื่อเทรดในตลาดต่างๆ ได้ แต่จำนวนเลเวอเรจที่คุณสามารถใช้นั้นแตกต่างกันอย่างมาก และขึ้นอยู่กับประเภทของสินทรัพย์ที่คุณวางแผนจะเทรด

การเทรดสกุลเงินด้วยเลเวอเรจ

ตลาด Forex เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เทรดเดอร์ Forex สามารถใช้เลเวอเรจที่ค่อนข้างสูง ซึ่งสูงถึง 1000:1 สำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ สิ่งนี้ทำให้การเทรด Forex ทำกำไรได้มากขึ้น แต่ยังมีความเสี่ยงด้วยเช่นกัน

เลเวอเรจสำหรับดัชนี

ดัชนีสะท้อนให้เห็นถึงประสิทธิภาพโดยรวมของกลุ่มสินทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมหรือภาคส่วนใดๆ โดยเฉพาะ เลเวอเรจสำหรับตลาดนี้ค่อนข้างต่ำ อัตราส่วนสูงสุดที่เป็นไปได้คือ 200:1

การเทรดหุ้นด้วยเลเวอเรจ

การเทรดหุ้นเป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่เทรดเดอร์สามารถใช้เลเวอเรจได้ เมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ แล้ว ตลาดหุ้นมีอัตราส่วนเลเวอเรจค่อนข้างต่ำ ที่ FBS อัตราส่วนเลเวอเรจสูงสุดที่คุณจะได้รับเพื่อเทรดหุ้นคือ 100:1

การเทรดสกุลเงินดิจิทัลด้วยเลเวอเรจ

สกุลเงินดิจิทัลเป็นสินทรัพย์ที่ผันผวนมาก ดังนั้นอัตราส่วนเลเวอเรจจึงต่ำมาก เริ่มตั้งแต่ 5:1 นี่เป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวัง เพราะการใช้เลเวอเรจที่สูงสำหรับการเทรดคริปโตอาจส่งผลให้เกิดการสูญเสียอย่างมากได้

ความเสี่ยงของเลเวอเรจจริงที่มากเกินไปในการเทรด Forex

การใช้เลเวอเรจมากเกินไปในการเทรด Forec อาจสร้างกำไรได้มหาศาล แต่ก็อาจขาดทุนมหาศาลได้เช่นกัน ยิ่งคุณใช้เลเวอเรจสูงมากเท่าไร คุณก็ยิ่งเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น

ความเสี่ยงของมาร์จิ้นและมาร์จิ้นคอล

หากระดับมาร์จิ้นของคุณลดลงและต่ำกว่าจำนวนที่กำหนดไว้ โบรกเกอร์ของคุณอาจเริ่มต้นทำการเรียกหลักประกันหรือที่รู้จักกันว่ามาร์จิ้นคอล ซึ่งหมายความว่าคุณต้องฝากเงินเข้าบัญชีมากขึ้นเพื่อป้องกันไม่ให้โบรกเกอร์ปิดตำแหน่งเพื่อรับเงินของโบรกเกอร์คืน

โอกาสขาดทุนที่มีไม่จำกัดด้วยออปชัน

ออปชันต้องการให้ผู้ขายของพวกเขาซื้อหรือขายสินทรัพย์ในราคาที่ระบุไว้ในออปชันเหล่านี้ ดังนั้นหากผู้ซื้อดำเนินการ ผู้ขายก็ได้ขาดทุนแล้ว ซึ่งขนาดจะขึ้นอยู่กับว่าราคาสินทรัพย์ขึ้นหรือลงมากเพียงใด โดยมันไม่มีการจำกัดราคาที่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ซึ่งหมายความว่าไม่มีการจำกัดผลกำไรที่คุณสามารถสูญเสียได้

ไม่เหมาะสำหรับการเทรดระยะยาว

โดยทั่วไปแล้ว ETFs ที่มีเลเวอเรจจะใช้สำหรับการเทรดระหว่างวัน เนื่องจากอาจมีช่องว่างเกิดขึ้นตอนที่ตลาดเปิดในวันถัดไป การใช้เลเวอเรจเพื่อสิ่งอื่นนอกเหนือจากการเทรดระยะสั้นนั้นหมายความว่ากำไรที่คุณได้รับอาจอยู่ไกลจากเป้าหมายของคุณมากๆ

คุณจะสามารถคำนวณอัตราส่วนเลเวอเรจได้อย่างไร?

ในการคำนวณอัตราส่วนเลเวอเรจ คุณต้องหารจำนวนสินทรัพย์ด้วยจำนวนมาร์จิ้น (เงินทุน) ตัวอย่างเช่น หากคุณต้องการซื้อ Forex มูลค่า $500 และคุณมี $100 ในบัญชีมาร์จิ้น คุณจะต้องใช้อัตราส่วนเลเวอเรจ 5:1

เมื่อเปรียบเทียบมาร์จิ้น Forex กับการเทรดหุ้นแล้วเป็นอย่างไร?

การเทรด Forex ช่วยให้คุณมีเลเวอเรจมากขึ้น (100:1 หรือมากกว่าสำหรับเทรดเดอร์มืออาชีพ) แม้ว่าสิ่งนี้อาจดูมีความเสี่ยง แต่คู่ Forex ไม่ได้เปลี่ยนแปลงราคามากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งภายในหนึ่งวัน ดังนั้นความเสี่ยงจึงน้อยกว่าที่จะเป็นในตลาดการซื้อขายอื่นๆ

ตลาด Forex มีความผันผวนไหม?

ตลาด Forex โดยทั่วไปถือว่าเป็นหนึ่งในตลาดที่มีสภาพคล่องมากที่สุด ซึ่งหมายความว่าตลาดเหล่านี้มีความผันผวนน้อยกว่า อย่างไรก็ตาม อัตราสกุลเงินขึ้นอยู่กับปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา เช่น เศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจในประเทศ, ภูมิศาสตร์การเมือง, การค้า ฯลฯ ดังนั้นเทรดเดอร์จึงต้องตระหนักว่าเหตุการณ์เหล่านี้สามารถทำให้เกิดความผันผวนอย่างมีนัยสำคัญในคู่สกุลเงิน

ฉันควรใช้เลเวอเรจเท่าไรดีล่ะ?

เลเวอเรจอาจดูเหมือนเป็นวิธีที่ง่ายในการทำเงินจำนวนมากอย่างรวดเร็ว แต่ก็เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เทรดเดอร์เสียเงินจำนวนมากเช่นกัน หากคุณตัดสินใจที่จะใช้เลเวอเรจ อย่าเริ่มต้นด้วยอัตรา 100:1 โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณเป็นมือใหม่และยังคงเรียนรู้เกี่ยวกับการเทรดอยู่ มันจะเป็นการดีกว่าในการที่จะใช้เลเวอเรจที่น้อยกว่า (10:1) และสร้างทุนของคุณอย่างต่อเนื่องและรับประสบการณ์มากกว่าเสียเงินทั้งหมดของคุณภายในหนึ่งวัน

การเทรดด้วยเลเวอเรจ: ข้อดีและข้อเสีย

มีข้อดีหลายประการในการเทรดโดยใช้เลเวอเรจที่น่าดึงดูดสำหรับเทรดเดอร์:

  • กำไรสูง – เลเวอเรจจะคูณจำนวนเงินที่คุณมี ทำให้ผลกำไรที่เป็นไปได้ของคุณสูงขึ้นมาก
  • เข้าถึงหุ้นที่มีมูลค่าสูงขึ้นได้ – ด้วยเลเวอเรจ คุณสามารถซื้อสินทรัพย์ที่คุณไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินของคุณเอง
  • ตำแหน่งที่ใหญ่มากขึ้น – เลเวอเรจช่วยให้คุณเข้าสู่การเทรดได้มากขึ้นในเวลาเดียวกันและซื้อสินทรัพย์ได้มากขึ้นโดยไม่ต้องใช้เงินทุนทั้งหมดของคุณ

อย่างไรก็ตาม มีข้อเสียบางประการที่เทรดเดอร์ควรคำนึงถึงก่อนตัดสินใจใช้เลเวอเรจ:

  • สูญเสียความเป็นเจ้าของสินทรัพย์ – หากการเทรดของคุณสูญเสีย โบรกเกอร์ของคุณสามารถปิดตำแหน่งของคุณโดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากคุณ และจากนั้นคุณก็จะไม่เหลือทั้งสินทรัพย์และเงินเลย
  • ความเสี่ยงที่มากขึ้น – เลเวอเรจช่วยเพิ่มผลกำไรของคุณ แต่ยังเพิ่มจำนวนการสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นหากตลาดขยับสวนทางกับคุณต้องการ

ตัวอย่างเลเวอเรจในการเทรดหุ้น

สมมติว่าคุณตัดสินใจซื้อหุ้นมูลค่า $10,000 และใช้เงินของคุณเองทำสิ่งนี้ นี่คือเลเวอเรจ 1:1 (โดยพื้นฐานแล้วนี่คือตำแหน่งที่ไม่มีเลเวอเรจ) เนื่องจากคุณไม่ต้องยืมอะไรจากโบรกเกอร์ หากคุณได้กำไร $100 ผลตอบแทนของคุณจะเป็น 1% ($100/$10,000*100) ในเวลาเดียวกัน หากคุณสูญเสีย $100 การสูญเสียของคุณก็จะได้ผลตอบแทนเพียง -1% เช่นกัน

ลองนึกภาพว่า คุณไม่มีเงิน $10,000 แต่ต้องการเทรดด้วยยอดเงินจำนวนนี้ นี่คือตอนที่เลเวอเรจจะเข้ามามีบทบาท ในกรณีนี้ โบรกเกอร์ของคุณจะต้องใช้มาร์จิ้น 1% เท่ากับ $100 ในบัญชีของคุณ นี่คือมาร์จิ้นที่คุณใช้ไปแล้ว เลเวอเรจคือ 100:1 เนื่องจากคุณควบคุม $10,000 ด้วยเงินเพียง $100 99% ที่เหลือนั้น ถูกจัดหาให้โดยโบรกเกอร์ มาร์จิ้นเป็นสิ่งที่จำเป็นสำหรับการรักษาความปลอดภัยของโบรกเกอร์ในกรณีที่ตลาดขยับสวนทางกับตำแหน่งของคุณ ในกรณีที่ได้กำไร $100 ผลตอบแทนของคุณจะเท่ากับ 100% ($100/$100*100) อย่างไรก็ตาม หากคุณสูญเสีย $100 ผลตอบแทนจะเป็น -100% อย่างที่คุณเห็น โดยการเทรดหุ้นด้วยเลเวอเรจอาจส่งผลให้มีกำไรมากขึ้นหรือขาดทุนมากขึ้นเมื่อเทียบกับตำแหน่งที่ไม่มีเลเวอเรจ

เลเวอเรจของรายย่อยเทียบกับเลเวอเรจของมืออาชีพ

อัตราเลเวอเรจไม่เพียงขึ้นอยู่กับตลาดที่คุณเทรดเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับว่าคุณเป็นเทรดเดอร์ประเภทใดด้วย โดยทั่วไป อัตราเลเวอเรจสำหรับเทรดเดอร์รายย่อยจะต่ำกว่าเทรดเดอร์มืออาชีพ และยังจำกัดจำนวนการสูญเสียที่พวกเขาเสี่ยงที่จะแบกรับด้วย นอกจากนี้ยังมีเกณฑ์อื่นๆ ที่เทรดเดอร์มืออาชีพต้องปฏิบัติตามเพื่อให้มีสิทธิ์ได้รับเลเวอเรจ

การบริหารความเสี่ยงเลเวอเรจ

เนื่องจากเลเวอเรจสูงมีความเสี่ยงสูง จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่จะต้องมีกลยุทธ์การจัดการความเสี่ยงที่ดีก่อนที่จะใช้เลเวอเรจในการเทรด นอกเหนือจากการหลีกเลี่ยงการใช้เงินทุนที่มีเลเวอเรจมากเกินไปในการเทรดแล้ว เทรดเดอร์ยังสามารถใช้คำสั่ง Stop Loss สำหรับตำแหน่งของตนได้ คำสั่ง Stop Loss จะทำให้ตำแหน่งของคุณปิดโดยอัตโนมัติเมื่อผ่านเกณฑ์ที่กำหนด ซึ่งลดจำนวนการสูญเสียที่คุณสามารถรับได้ นอกจากนี้ยังเป็นการดีกว่าถ้าใช้เลเวอเรจในการเทรดระยะสั้น

สรุป

เลเวอเรจช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปิดตำแหน่งที่ใหญ่กว่าที่พวกเขาจะทำได้ด้วยเงินของตัวเอง จำนวนเลเวอเรจที่เทรดเดอร์จะได้รับขึ้นอยู่กับความผันผวนของสินทรัพย์และขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพหรือไม่

นอกจากจะเป็นการเพิ่มผลตอบแทนที่อาจเกิดขึ้นแล้ว เลเวอเรจยังเพิ่มความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นอีกด้วย มีหลายวิธีในการลดความเสี่ยงและจัดการความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น แต่สิ่งสำคัญที่เทรดเดอร์ควรจำไว้คืออย่าใช้เลเวอเรจโดยไม่คิดให้ถี่ถ้วนก่อน

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

การเทรดด้วยเลเวอเรจนั้นอันตรายหรือไม่?

การเทรดแบบใช้เลเวอเรจมีความเสี่ยงมากกว่าการเทรดแบบไม่ใช้เลเวอเรจ เนื่องจากเทรดเดอร์สามารถสูญเสียไม่เพียงแต่เงินของตัวเอง แต่ยังรวมถึงเงินที่ไม่ได้เป็นของพวกเขาอีกด้วย ในบางกรณี เทรดเดอร์อาจสูญเสียสินทรัพย์ที่ซื้อด้วยเลเวอเรจ

คุณต้องชำระเลเวอเรจคืนหรือไม่?

ใช่ โดยคุณยืมเงินจากโบรกเกอร์ไปแล้ว ดังนั้นคุณต้องคืนมันตามปกติ โบรกเกอร์บางรายคิดดอกเบี้ยจากการเทรดด้วยมาร์จิ้น ดังนั้นการเทรดด้วยเลเวอเรจก็จะเพิ่มค่าใช้จ่ายของคุณด้วย

การเทรดด้วยเลเวอเรจทำงานอย่างไร?

เมื่อเทรดเดอร์ใช้เลเวอเรจ พวกเขายืมเงินจากโบรกเกอร์เพื่อใช้จ่ายในการซื้อสินทรัพย์ สิ่งนี้ทำให้เทรดเดอร์สามารถเปิดตำแหน่งได้มากขึ้นและซื้อสินทรัพย์ที่มีราคาแพงกว่าที่พวกเขาสามารถซื้อได้ด้วยเงินของพวกเขาเพียงอย่างเดียวได้

FBS ณ สื่อสังคมออนไลน์

ติดต่อเรา

@@@@
store iconstore icon
ดาวน์โหลดได้ที่
App Store
store iconstore icon
ดาวน์โหลดได้ที่
Google Play

การซื้อขาย

บริษัท

เกี่ยวกับ FBS

เอกสารทางกฎหมาย

ข่าวเกี่ยวกับบริษัท

สโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ซิตี้

ศูนย์ช่วยเหลือ

โปรแกรมพันธมิตร

เว็บไซต์นี้ดำเนินการโดย FBS Markets Inc. หมายเลขจดทะเบียน 000001317 ซึ่ง FBS Markets Inc. ได้รับการจดทะเบียนโดย Financial Services Commission ภายใต้พระราชบัญญัติอุตสาหกรรมหลักทรัพย์ฯ 2021 (Securities Industry Act 2021) ใบอนุญาตเลขที่ 000102/6 ที่อยู่สำนักงาน: 9725, Fabers Road Extension, Unit 1, Belize City, Belize

โดย FBS Markets Inc. ไม่ได้ให้บริการทางการเงินแก่ผู้อยู่อาศัยในเขตอำนาจศาลบางแห่ง ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง: สหรัฐอเมริกา, สหภาพยุโรป, สหราชอาณาจักร, อิสราเอล, สาธารณรัฐอิสลามแห่งอิหร่าน, เมียนมาร์

ธุรกรรมการชำระเงินได้รับการจัดการโดย HDC Technologies Ltd.; Registration No. HE 370778; Legal address: Arch. Makariou III & Vyronos, P. Lordos Center, Block B, Office 203, Limassol, Cyprus ที่อยู่เพิ่มเติม: Office 267, Irene Court, Corner Rigenas and 28th October street, Agia Triada, 3035, Limassol, Cyprus

เบอร์ติดต่อ: +357 22 010970 เบอร์ติดต่อเพิ่มเติม: +501 611 0594

สำหรับความร่วมมือ กรุณาติดต่อเราผ่าน [email protected]

คำเตือนเรื่องความเสี่ยง: ก่อนที่คุณจะเริ่มทำการซื้อขาย คุณควรเข้าใจความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับตลาดสกุลเงินและการซื้อขายโดยใช้มาร์จิ้นอย่างถ่องแท้ และคุณควรตระหนักถึงระดับประสบการณ์ของตนเอง

การคัดลอก การทำสำเนา การเผยแพร่ รวมถึงแหล่งข้อมูลอินเทอร์เน็ตของเนื้อหาใดๆ จากเว็บไซต์นี้สามารถดำเนินการได้เฉพาะเมื่อได้รับการอนุญาตที่เป็นลายลักษณ์อักษรเท่านั้น

ข้อมูลบนเว็บไซต์นี้ไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน การชี้แนะ หรือการชักชวนให้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการลงทุนใด ๆ ทั้งสิ้น